ทฤษฎีการวิเคราะห์กลยุทธ์ด้วยแมททริกซ์การประเมินปัจจัยภายใน
– การประเมินปัจจัยภายนอก (Internal /
External (IE) Matrix)
แมททริกซ์การประเมินปัจจัยภายใน-การประเมินภายนอก
เป็นการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างแมททริกซ์การประเมินปัจจัยภายในและภายนอกดังนี้
1.
แกนนอนแทนค่าคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
3 ระดับคือ เข้มแข็ง 3.0-4.0, ปานกลาง 2.0 – 2.99 และอ่อนแอ
1.0 – 1.99
2.
แกนตั้งจะแทนค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
3 ระดับคือ สูง 3.0 – 4.0, ปานกลาง
2.0 – 2.99, ต่ำ 1.0 – 1.99
แมททริกซ์ปัจจัยภายใน – ปัจจัยภายนอก
(IE) มี 9
ช่อง ดังนี้
1.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน (IFE) เข้มแข็ง และมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก (EFE) สูงด้วย
2.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) ปานกลางและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) สูงด้วย
3.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) อ่อนแอและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) สูงด้วย
4.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) เข้มแข็งและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ปานกลาง
5.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) ปานกลางและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ปานกลาง
6.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) อ่อนแอและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ปานกลาง
7.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) เข้มแข็งและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ต่ำ
8.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) ปานกลางและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ต่ำ
9.
มีคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายใน
(IFE) อ่อนแอและมีค่าถ่วงน้ำหนักรวมของปัจจัยภายนอก
(EFE) ต่ำ
แมททริกซ์ปัจจัยภายใน – ภายนอก (IE)
จะแบบออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ประกอบด้วยช่อง 1, 2 และ 4
องค์กรจะใช้กลยุทธ์การเจริญเติบโตและการสร้างส่วนครองตลาด โดยใช้กลยุทธ์การขยายตัวให้มากขึ้น ได้แก่
กลยุทธ์การเจาะตลาด
กลยุทธ์การพัฒนาตลาดและกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือใช้กลยุทธ์การขยายตัวแบบรวมตัว
ส่วนที่ 2 ประกอบด้วยช่อง 3, 5 และ 7
ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่าประคับประคองและรักษา
ใช้กลยุทธ์การเจาะตลาดและกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์
ส่วนที่ 3 ประกอบด้วยช่อง 6, 8 และ 9
ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่าการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ การเลิกหรือการถอน
Grand Strategy Matrix
เทคนิคในการวิเคราะห์เพื่อสร้างทางเลือกในการกำหนดกลยุทธ์อีกวิธีหนึ่ง การนำ
แมททริกซ์กลยุทธ์หลักมาใช้จะนำ
ปัจจัยการเจริญเติบโตของตลาดและปัจจัยในการแข่งขัน ซึ่งแสดงว่า
ธุรกิจมุ่งเน้นความสำคัญทางการตลาดเป็นหลัก เช่น
บริษัทที่มุ่งเน้นทางการขายและขั้นตอนในการสร้างทางเลือกการกำหนดกลยุทธ์ในวิธีนี้มีขั้นตอนดังนี้คือ
The Grand
Strategy Matrix
RAPID MARKET GROWTH
Quadrant II
Quadrant I
1. Market development 1.
Market development
2. Market penetration
2. Market penetration
3. Product development
3. Product development
4. Horizontal integration
4. Forward integration
5. Divestiture
5. Backward integration
6. Liquidation 6.
Horizontal integration
7. Concentric diversification
WEAK
STRONG
COMPETITIVE COMPETITIVE
POSITION Quadrant III
Quadrant IV POSITION
1. Retrenchment
1. Concentric diversification
2. Concentric diversification
2. Horizontal diversification
3. Horizontal diversification
3. Conglomerate diversification
4. Conglomerate diversification
4. Joint Venture
5. Divestiture
6. Liquidation
SLOW MARKET GROWTH
โดยในการเปรียบเทียบการพิจารณาการกำหนดกลยุทธ์ของวิธีนี้สามารถพิจารณาได้ กลยุทธ์ต่าง ๆ และการใช้กลยุทธ์ในแต่ละทางเลือก
|
กลุ่มที่ 1 การวิเคราะห์ปัจจัยเมื่อบริษัทมีการเจริญเติบโตของตลาดและการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจสูงดังนั้นกลยุทธ์นี้บริษัทจะนำมาใช้ดังนี้
1.
การพัฒนาตลาด ( Market development)
2.
การเจาะตลาด ( Market penetration)
3.
การพัฒนาผลิตภัณฑ์
(Product development)
4.
การรวมธุรกิจไปข้างหน้า (Forward integration)
5.
การรวมธุรกิจไปข้างหลัง (Backward integration)
6.
การรวมธุรกิจแนวนอน
( Horizontal integration)
7.
การกระจายธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ (Concentric diversification)
กลุ่มที่ 2 การวิเคราะห์ปัจจัยของบริษัทเมื่อบริษัทมีการเจริญเติบโตของตลาดแรงแต่การแข่งขันในธุรกิจไม่รุนแรง ดังนั้นกลยุทธ์ที่บริษัทใช้มีดังนี้
1.
การพัฒนาตลาด ( Market development)
2.
การเจาะตลาด ( Market penetration)
3.
การพัฒนาผลิตภัณฑ์
(Product development)
4.
การรวมธุรกิจแนวนอน
( Horizontal integration)
5.
เลิกลงทุน (Divestiture)
6.
การเลิกธุรกิจ (Liquidation)
กลุ่มที่ 3
การวิเคราะห์ปัจจัยของบริษัทเมื่อการเจริญเติบโตของตลาดช้าและในขณะเดียวกันคู่แข่งขันในธุรกิจไม่รุนแรง ดังนั้นกลยุทธ์บริษัทใช้มีดังนี้
1.
การถดถอย (Retrenchment)
2.
การกระจายธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ (Concentric diversification)
3.
การกระจายธุรกิจตามแนวนอน
( Horizontal diversification)
4.
การกระจายธุรกิจที่ไม่สัมพันธ์กัน
(Conglomerate diversification)
5.
เลิกลงทุน (Divestiture)
6.
การเลิกธุรกิจ (Liquidation)
กลุ่มที่ 4 การวิเคราะห์ปัจจัยของบริษัทเมื่อการเจริญเติบโตของตลาดมีการแข่งขันธุรกิจสูงมาก ดังนั้นกลยุทธ์บริหารใช้มีดังนี้
1.
การกระจายธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ (Concentric diversification)
2.
การกระจายธุรกิจตามแนวนอน
( Horizontal diversification)
3.
การกระจายธุรกิจที่ไม่สัมพันธ์กัน
(Conglomerate diversification)
4.
การร่วมลงทุน (Joint Venture)
บทความนี้เป็นบทความชิ้นสุดท้ายในการศึกษาทฤษฎีการจัดการชั้นสูงของเทอมนี้ เนื้อหาของการวิเคราะห์ตัวนี้ ค่อนข้างจะมีรายละเอียดพอสมควร ไม่สามารถที่จะเขียนลงในหนึ่งบล็อคได้ ดังนั้นจึงทำการแบ่งออกเป็นลำดับไป หากท่านที่สนใจก็ศึกษาให้ครบตามข้อมูลนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ